“กยศ.” เดินหน้าทวงเงิน! ผู้ค้างชำระหนี้ ชี้ขอความร่วมมือรีบชำระคืน ขู่ต่อไปไม่มีไกล่เกลี่ย ลุยยึดทรัพย์-หักเงินเดือนอย่างเดียว เผยถูกยึดไปแล้วเกือบ 800 ราย จ่อคิวยึดอีกกว่า 4,000 ราย รวมเป็นเงิน 100 กว่าล้านบาท เตรียมผุดมาตรการจับมือหน่วยงานรัฐ-เอกชนหักเงินพนักงาน
เมื่อวันที่ 16 ก.ย.58 ดร.ฑิตติมา วิชัยรัตน์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า ในปีการศึกษา2558 มีผู้กู้รายเก่าและรายใหม่ รวมประมาณ 750,000 ราย เป็นผู้กู้รายใหม่ประมาณ 200,000 ราย ซึ่งลดลงจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากกยศ. ได้จำกัดจำนวนผู้กู้
ขณะที่ในส่วนการชำระหนี้ พบว่ามีจำนวนผู้มาชำระหนี้เพิ่มขึ้นจากปี 2557 ประมาณ 2.2 ล้านคน จากการที่กยศ.มีโครงการรณรงค์ชำระหนี้ต่างๆ โดยเฉพาะการจ้างบริษัทติดตามหนี้พบว่า ปี2557 ได้เงินคืนประมาณ 800 ล้านบาท และปี2558 ประมาณ 5,000 ล้านบาท
ดร.ฑิตติมา ระบุว่า ที่ผ่านมากยศ. พยายามหามาตรการรณรงค์ให้แก่ผู้ค้างชำระหนี้มาโดยตลอด เพราะไม่อยากให้มีการดำเนินคดีฟ้องร้อง และยังมีผู้ค้างชำระหนี้อีกจำนวนมากที่เมื่อฟ้องร้องดำเนินคดีไปแล้วกลับปล่อยปละละเลยไม่ยอมชำระหนี้ตามคำพิพากษาของศาล ซึ่งหากปล่อยไว้จะทำให้คดีหมดอายุความ ทางกยศ.จึงต้องขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีเพื่อเจ้าพนักงานไปบังคับยึดทรัพย์ผู้กู้ ซึ่งขณะนี้มีผู้กู้ในปีการศึกษา 2547 ดำเนินการไปแล้ว 786 ราย รวมเป็นเงิน 22 ล้านบาท และในปีนี้มีผู้ที่เข้าข่ายจะถูกยึดทรัพย์อีก 4,175 ราย รวมเป็นเงิน 109 ล้านบาท
ทั้งนี้จึงขอความร่วมมือให้ผู้ที่ค้างชำระรีบมาชำระเงินกู้ยืมคืน เพื่อไม่ให้เกิดการฟ้องร้องและยึดทรัพย์ขึ้น เพราะหลังจากนี้จะไม่มีโครงการไกล่เกลี่ยลูกหนี้ในชั้นบังคับคดีอีก แต่จะเปลี่ยนเป็นการกำหนดใช้มาตรการใหม่ เช่น โครงการรณรงค์ชำระหนี้ โดยหักเงินเดือนพนักงานที่เป็นลูกหนี้กยศ. โดยขอความร่วมมือจากหน่วยงานต่าง ๆ รวมทั้งขณะนี้ กยศ. ยังคิดโปรโมชั่นใหม่ ๆ เพื่อจูงใจให้ผู้กู้ชำระหนี้
ที่มา Dailynews.co.th